นายปรเมศท์ เปิดเผยว่า หลังเรียนจบชั้น ปวส. ได้เดินทางไปทำงานที่กรุงเทพฯ รวม 14 ปี เก็บเงินได้พอสมควร ก่อนออกจากงานเมื่อปีที่ผ่านมา เพราะรู้สึกคิดถึงลูกและภรรยา และอยากมาทำไร่นาสวนผสม ในเนื้อที่ 27 ไร่ ซึ่งเป็นที่ของแม่ยายที่มอบให้กับภรรยาของตน ตนจึงศึกษาหาความรู้จากสถานที่ต่างๆ นานหลายเดือน ก่อนตัดสินใจลงมือทำได้ประมาณ 1 ปี ปลูกและเลี้ยงทุกอย่างที่กินได้ เช่นปลูกข้าว เลี้ยงปลา เลี้ยงกบ และพืชสวนครัว และเริ่มเก็บผลผลิตขายมาได้ไม่นาน ก่อนมาเจอกบประหลาดตัวนี้ ในขณะที่ตนเองคัดกบในกระชังไปขายในตลาด และส่งขายตามหมู่บ้าน หากมีคนสั่งซื้อ พร้อมกับชำแหละให้ลูกค้าด้วย และขายในราคา 120 บาท ต่อ 1 กิโลกรัม บางคนไม่มีเงินพอก็จะลดราคาให้ 100 บาทต่อกิโลกรัม เพราะเวลาไปส่งลูกค้าส่วนมากจะเป็นคนค่อนข้างฐานะไม่ค่อยดี ซึ่งในราคานี้ถือว่าถูกกว่าท้องตลาด ที่ขายถูกเพราะเราเลี้ยงเองขายเองไม่ผ่านพ่อค้าแม่ค้าคนกลางที่ พ่อค้าแม่ค้าตามตลาดรับซื้อไปวางขาย ประกอบกับช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ดีด้วย